Sugoi Hokkaido & Amazing Osaka
เมื่อการเดินทางครั้งใหม่เริ่มขึ้น เรื่องเล่าต่างๆก็กลับมาพร้อมกับการเดินทาง
การเดินทางบางครั้งก็มีอุปสรรค บางครั้งก็โรยด้วยกลีบกุหลาบ
แต่เมื่อสิ้นสุดการเดินทางแล้ว
ทุกๆอย่างที่ได้เจอก็หล่อหลอมให้เกิดเรื่องราวที่ประทับใจอยู่เสมอ
ทุกๆอย่างที่ได้เจอก็หล่อหลอมให้เกิดเรื่องราวที่ประทับใจอยู่เสมอ
หลังจากพักตัวพักใจกับทริปเนปาล ห่างหายไปสามเดือนวันนี้ก็กลับมาพร้อมกับเรื่องเล่าจากฮอกไกโดและโอซาก้า ทริปฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นครั้งนี้จะเป็นยังไงก็ติดตามกันครับ
เกือบ Fail
ไม่มีการเดินทางครั้งใดที่ไม่มีอุปสรรค ครั้งนี้ก็เช่นกัน ครั้งแรกที่วางแผนไปญี่ปุ่น กะไว้เลยว่าจะไปเพียงภูมิภาคฮอกไกโดที่เดียว จองโรงแรมวางแผนทุกอย่างเรียบร้อย แต่พอมีประกาศเรื่องการเดินทางโดยอากาศยานจากไทยไปที่นั่นถูกระงับเส้นทางทางบิน คือเสียใจอย่างแรง เพราะทุกอย่างพร้อมมากเพียงรอเวลา แต่พอผ่านไปได้ก็ตั้งสติแล้วนั่งดูตั๋วโปรต่างๆเรื่อย จนมาเจอโอซาก้า ในราคา 7450 บาท ตั๋วเครื่องบิน+ห้องพัก 3 คืน เห็นราคานี้แล้วอดไม่ไหวจริงๆ เพื่อนชวนไปผมก็โอเค แต่ไม่จบแค่นั้น ในแผนที่วางใหม่กะไปเฉพาะคันไซ แต่เพราะเพื่อนอยากไปเห็นทุ่งลาเวนเดอร์มาก สุดท้ายก็ได้ไปฮอกไกโด และเส้นทางบินที่ถูกยกเลิกเที่ยวบิน ช่วงที่ผมไปก็ยังบินอยู่ เอิ่มมมมม!!!
ไปไหนบ้าง
ครั้งนี้ไปสองภูมิภาคใหญ่ๆคือ ฮอกไกโดและคันไซ ฮอกไกโดไปที่ โอตารุ ซัปโปโร ฟุราโนะ ส่วน คันไซ ก็ไปเฉพาะโอซาก้าเพราะมีเวลาน้อย
ใช้เวลาทั้งหมดกี่วัน
ถ้านับเฉพาะๆวันเที่ยวจริงๆคือห้าวัน เดินทางวันที่ 25 ก.ค.ไปถึงโอซาก้า 26 - 28 เที่ยวฮอกไกโด 29-30เที่ยวโอซาก้า 31 ดึกๆกลับไทย
ฝากสำหรับคนที่อยากมา
สะสมเงินกันไว้ พร้อมเมื่อไหร่ก็มา ตั๋วโปรมีออกมาเรื่อยๆ ดูๆไปเดี๋ยวก็เจอ อยากไปไหนฝันอะไรก็ต้องคิดเสมอ เป้าหมายมีไว้พุ่งชน ทำความฝันของเราให้เป็นจริง
................................................................
มาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่า
หลังจากได้วันลา ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อม ก็ถึงเวลาเดินทาง ผมเดินทางออกจากโครงการตอนตีสี่ไปถึงสนามบินเลยประมาณ เก้าโมงกว่า จากนั้นรอต่อเครื่อง รอบเกือบๆเที่ยงเพื่อบินไปยังดอนเมือง จะถึงจุดหมายปลายทางประมาณบ่ายกว่าๆ เรื่องระทึกมีให้คิดตลอดตั้งแต่เริ่มเดินทาง จะตื่นทันไหมนะ? จะขึ้นเครื่องทันไหม? เครื่องจะดีเลย์ไหม? จะไปทันต่อเครื่องไหม? การตรวจสัมภาระจะรอนานไหม? แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี
ขึ้นรถออกมาจากโครงการทัน มาขึ้นเครื่องที่สนามบินเลยทัน เครื่องออกตรงเวลา ไปถึงก่อนเวลา แต่เครื่องไปจอดไกลมาก กว่าจะจอดได้เสียเวลานานอยู่ พอรถบัสมารับก็ไม่รู้จะวนไปถึงไหนคนยิ่งรีบๆ แล้วก็ไปรอรับกระเป๋าประมาณ 20 นาทีได้ จากนั้นก็ขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นผู้โดยสารขาออก การตรวจสัมภาระตามมาตรฐานและคิวไม่ยาวมาก ตอน Check-in แนะนำว่าในทำ Web Check-in มาก่อนจะได้รอคิวไม่ยาว ไปถึงก็เข้าช่อง Baggage Drop แปบเดียวก็เสร็จเรียบร้อย หลังจากได้ตั๋วกับใบผ่านด่านก็กรอกเอกสาร แล้วเดินไปทางผู้โดยสารขาออกนอกประเทศ ทุกอย่างเรียบร้อย มาก่อน boarding time เป็นครึ่งชั่วโมง ลุ้นแทบแย่
กระเป๋าสัมภาระถูกตรวจอย่างเรียบร้อย เพราะของที่เค้าห้ามผมก็เอาใส่กระเป๋าใบที่โหลดหมด ตอนนี้ในกระเป๋าก็มีผ้าพันคอ เสื้อกันหนาว กระเป๋าเงิน กล้อง แบตสำรองต่างๆ เพียงแค่นั้น เข้าไปก่อนเวลาเป็นชั่วโมง ก็เลยเดินสำรวจนั่นนี่ ข้างในมีของขายไม่เยอะ รู้สึกวังเวงด้วยนะ มันเงียบมาก จนรู้สึกได้
พอเกตเปิดก็เข้าไปด้านใน โอ้โห ข้างนอกเงียบเชียบแต่ข้างในคนเยอะมาก คงเกือบเต็มลำละมั้ง พอเขาเรียกก็ขึ้นเครื่อง เดินหาที่นั่ง เก็บของไปบนศรีษะใต้ที่นั่งด้านหน้า รัดเข็มขัด ปิดเครื่องมือสื่อสาร เอาเสื้อกันหนาวกับผ้าพันคอมาใส่
โปรดงดใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด
เที่ยวบินนี้ปลอดบุหรี่
ห้ามถอดเข็มขัดจนกว่าสัญญาณไฟจะดับ
...ZZZzz....
ด้วยความเพลียและความง่วง จับใจความที่ลูกเรือพูดอะไรต่างๆได้เพียงเท่านี้ ตื่นมาอีกที ก็ตอนเพื่อนเรียกขึ้นมาทานอาหาร มื้อนี้สั่งตั้งแต่ตอนเช็คอิน เป็นผัดไท รถชาติก็ตามมาตรฐานอาหารบนเครื่องบินทั่วไป กลางๆ พอประทังความหิวไปได้ในมื้อนี้ ส่วนเพื่อนกินกะเพราไก่
พอเครื่องใกล้ถึงกัปตันก็ประกาศว่าใกล้ถึงแล้ว สภาวะภูมิอากาศที่โอซาก้าเป็นยังไง วันนี้เหมือนเครื่องจะดีเลย์ เพราะถึงประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ พอเดินมาถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง เจอชาวจีนมาลงเครื่องที่โอซาก้าเยอะมาก คิวยาวสุดๆ ด่านตรวจคนเข้าเมืองมีเยอะ แต่คนก็มีปริมาณมากเช่นกัน ต่อไปต่อมา กว่าจะถึงคิวผมก็ตีหนึ่งกว่า
เมื่อตรวจผ่านเรียบร้อยเดินออกมาด้านนอก เป้าหมายแรกคือหาที่นั่งที่นอนพัก แต่ขอบอกเลยว่าไปมุมไหน ตรงไหน ที่ทำเลทองใกล้ปลั๊กไฟเต็มหมด เดินสักพักก็หาที่นั่งที่สามารถให้เราพักเมื่อยได้อยู่ที่นึงก็เลยเอาของไปวางไว้ตรงนั้น แล้วเปลี่ยนกับเพื่อนไปร้านสะดวกซื้อหาอะไรกิน
ไหนๆก็ไม่ได้นอน ก็เลยนั่งเล่น Wifi free ที่สนามบิน เลยนั่งหาอ่านข้อมูลเตรียมตัวสำหรับการเที่ยว ตอนนั้นจำได้เลย เมื่อยก็เมื่อย เพลียก็เพลีย อยากจะงีบแต่มันไม่ไหวจริงๆ มันเมื่อยจนนอนไม่หลับ ที่นอนก็ไม่ค่อยสบาย เลยเดินไปมา นั่งเล่นไอแพดบ้าง รอเวลาต่อเครื่อง
ประมาณตีสามผมก็เดินไปที่เลาจน์เพื่อที่จะจองและเช่าห้องอาบน้ำ แต่ขอบอกเลยว่าพอไปถึงต้องผิดหวัง ห้องน้ำไม่ว่างไปจนถึงหกโมง คือผิดที่ผมพลาดเองที่คิดว่าห้องน้ำคงจะว่างตลอด มาอาบตอนไหนก็ได้ ถ้าเพื่อนคนไหนมีเดินทางเช้าหรือต้องการอาบน้ำแนะนำว่าให้ไปจองเวลาไว้เลยนะ ครับจะได้ไม่พลาดแบบผม วันนั้นเลยได้ซักแห้ง เดินชมนั่นนี่จนใกล้ตีสี่ก็ไปรอเพื่อเช็คอิน
พอถึงเวลา เราอาจจะคิดว่าเราเร็วแล้วแต่มีคนไวกว่าผมอีก เช็คอินเสร็จกะว่าจะรีบเข้าไปหาที่งีบด้านในแต่สรุปว่าต้องรอถึงตีห้าครึ่ง ด่านตรวจความปลอดภัยถึงจะเปิด ผมเลยตัดสินใจไปนั่งใกล้ๆทางเข้าที่เค้าตรวจกระเป๋าแทน
เครื่องออกตอนประมาณหกโมง ขอบอกเลยว่าโชคดีที่ตัวผมเอาผ้าพัสมีน่าที่ซื้อจากเนปาลมาด้วย ชอบใช้ผืนนี้เพราะเบา ห่มแล้วอุ่น แต่ขนเยอะไปนิดติดเต็มเสื้อผ้าเลย ผ้าที่เอามาเนี่ยทีแรกจะใช้ห่มกันหนาว แต่เพราะแดดที่นี่แรงมาก เลยเอาผ้ามาคลุมแขน นั่งไปสักพักคลุมแขนอย่างเดียวไม่พอต้องเอามาคลุมหัวเพราะร้อน พอถึงระดับที่ปิดหน้าต่างได้ ก็ปิดหน้าต่าง แล้วก็เผลอหลับไป ตื่นมาอีกทีก็รู้สึกคัดจมูก แล้วก็มีประกาศว่าใกล้ถึงฮอกไกโด มองออกไปนอกหน้าต่างตอนนี้ คนละอย่างกับตอนที่เห็นที่คันไซ ข้างนอกเมฆเยอะ มีฝน และเริ่มรู้สึกหนาว ผมก็เอาผ้าพันคอผืนเดิมมาพันตัวแทน สารพัดประโยชน์จริงๆ ฝนเยอะขนาดนี้แล้วทริปวันแรกที่ฮอกไกโดของผมจะเป็นยังไงบ้างละเนี่ย...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น