J-Trip ตอนที่ 1 : ความปรารถนาที่จะได้ไปญี่ปุ่น


ทำไมถึงอยากไปญี่ปุ่น
     ตอนเด็กๆนั้นดูทีวีแล้วชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่น ดารา การ์ตูน อาหาร และอะไรทุกอย่างที่เป็นญี่ปุ่นมาก เลยมีความใฝ่ฝันว่าสักวันต้องไปให้ได้ แล้วในวันนี้วันที่ความฝันเป็นจริงก็มาถึง เมื่อทำงานเก็บเงินมากพอสมควรที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองในระยะเวลาสั้นๆสักครั้ง รู้สึกภูมิใจนะว่าได้มาแล้วหรอประเทศที่ในฝัน ประเทศที่อยากไปในวัยเด็ก พอมีโอกาสก็เลยอยากเที่ยวแล้วก็นำประสบการณ์ที่ได้มาเที่ยวเยี่ยมชมเล็กๆน้อยๆนี้เขียนเล่าให้เพื่อนๆได้อ่านกัน เผื่ออาจจะเป็นแนวทาง(นิดหน่อย) ให้เพื่อนๆที่กำลังหาข้อมูล ได้ใช้ข้อมูลที่เราเขียนนี้เพื่อการเดินทางที่สะดวกยิ่งขึ้น (เมื่อเราได้รับจากคนอื่นเราก็ควรที่จะแบ่งปัน) ถึงจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวอะไรแต่ก็ตั้งใจจะเล่าในทุกเรื่องที่รู้และได้สัมผัสครับ

ไปญี่ปุ่นครั้งนี้จะทำอะไรบ้าง
     ไปครั้งนี้ไปทำอะไรหน่ะเหรอ??? ไปเองก็ตอบยากนะเพราะแพลนไม่แน่นอน เปลี่ยนได้ตลอดเวลา แต่เมื่อไปถึงแล้วก็ต้องทำอะไร๊อะไรที่เป็นญี่ปุ่นกันหน่อย ทั้งกินอาหารต่างๆราเมง อุด้ง โซบะ ขาปู และที่ขาดไม่ได้เลยคือซูชิ มาถึงแล้วก็ต้องไปย่านชื่อดังเช่นชินจูกุ ฮาราจุกุ ชิบูย่า นอกนี้นี้ก็ต้องไปเที่ยวสถานที่ดังๆเช่นพระราชวังอิมพีเรียล ถ่ายรูปกับโคมยักษ์วัดเซนโซจิ หรืออาจจะออกไปทำกิจกรรมนอกเมืองเช่น ล่องเรือที่ทะเลสาบฮาโกเนะ กินไข่ดำที่เชื่อกันว่าฟองนึงทำให้อายุยืน 7 ปี ถ่ายรูปกับเจดีย์แดงที่ทะเลสาบคาวากูจิโกะ เที่ยวชมมรดกโลกดูใบไม้เปลี่ยนสีที่นิกโก้ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือแช่น้ำแร่ออนเซน ที่คิดไว้กับจริงๆคือ ไม่ได้ไปหลายที่เลย
เตรียมตัวอย่างไร
     แค่เรามีจุดหมายก็ง่ายต่อการเตรียมตัว จุดหมายนี่ก็เหมือนความฝันถ้าเรามีฝัน ฝันก็จะไม่เป็นฝันอีกต่อไปเมื่อเราทำความฝันนั้นให้เป็นจริง เมื่อรู้ว่าเราชอบก็เก็บเงินครับอย่างแรกเลย ถ้าไม่มีเงินก็ไปไหนไม่ได้ เก็บบ้างไม่เก็บบ้าง เก็บไปเก็บมาเก็บเล็กผสมน้อยสุดท้ายก็ถึงวันนี้วันที่ได้ไปญี่ปุ่น จากเม็ดเงินและการตรากตรำในที่สุดก็ถึงวันที่ฝันเป็นจริง อันดับแรกคือเก็บให้พอจ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน อันดับที่สองเก็บให้พอค่าโรงแรมตามจำนวนวันและสถานที่ที่เราจะพัก อันดับที่สามคือเก็บเพื่อการเดินทางโดยขนส่งสาธารณะต่างๆ อันดับที่สี่คือเก็บเป็นค่าอาหาร และอันดับสุดท้ายเก็บเพื่อค่าซื้อของต่างๆ หรืออาจจะมีคนเก็บแบบอื่นก็ได้ไม่ว่ากันครับ มันเป็นเทคนิค
( เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มีฝันครับ ขอให้ได้เดินทางกันไปในเร็ววันนี้ )
      ระหว่างที่เก็บเงินก็ทำโปรแกรมไปว่าจะไปไหนนั่นนี่โน่น ร่างไว้คร่าวๆเพราะครั้งแรกคงยังไม่รู้สถานการณ์จริง เผื่อเวลาไว้เยอะมากครับครั้งแรกนี้ ดูว่าอยากไปที่ไหนมากสุดก็จับใส่แล้วใส่***ว่าต้องไปให้ได้ ตัดอันนี้ออกไม่ได้ 55 ส่วนอันรองๆก็มีระดับลดลง ถึงไม่ได้ไปครั้งนี้ก็เก็บไว้ครั้งหลังได้ เมื่อรู้ว่าตัวเองอยากไปไหนก็ดูว่าจะไปยังไง มีตั๋วPass อะไรที่จะสะดวกหรือเปล่าหรือต้องจองอะไรวันไหน เพราะตั๋วบางอย่างเต็มเร็วมาก อย่างเช่นตั๋วไปฮาโกเนะช่วงฤดุใบไม้เปลี่ยนสีที่พอเปิดจองได้แปบเดียวก็เต็มแล้วต้องศึกษาไว้เยอะๆ
     สำหรับผมก็คิดว่าประหยัดเป็นสิ่งที่ดีแต่มาเที่ยวทั้งทียอมจ่ายหน่อยบ้างก็ได้ เช่นอาหารถึงจะแพง แต่บ้างมื้อก็ต้องลองกินอะไรแปลกๆบ้างจะได้คุยกับใครได้ไงว่ามาเที่ยวที่นี่ลองอันนี้แล้วนะ รสชาติงั้นงี้ถูกปากหรือเปล่าเป็นอย่างไงบ้าง ถ้ากินแต่ข้าวปั้นอย่างเดียวคงเม้ากับใครไม่สนุกแน่นอน เที่ยวตั้งไกลแล้ว เตรียมพร้อมกับมื้อสำคัญบ้างก็เป็นของขวัญให้ตัวเองสักเล็กน้อย
      ใกล้เวลาเดินทางก็ยิ่งตื่นเต้น แต่อย่าลืมที่จะรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับสำคัญมากเลย เอกสารสำคัญต่างๆต้องเตรียมให้พร้อม กล้องเอยอะไรเอยถ้าซื้อมาใหม่ต้องเอามากดให้ชิน เวลาถ่ายออกมาแล้วหน้าเบลอหลังชัดจะรู้สึกเซงมาก (ปสก.ตรง อิอิ) พักผ่อนให้เพียงพอ ก่อนนอนท่องพุทโธอะไรไปหรือไม่ก็นับแกะก็ได้ แต่เชื่อเลยว่าถ้าไปเอง ครั้งแรก ส่วนใหญ่มักจะนอนไม่หลับกัน ผมไปไหนครั้งแรกก็ตื่นเต้นแบบนี้ ปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่

ความคิดเห็นสำหรับทริปที่ผ่านมา

     สำหรับทริปที่จัดผ่านมานี้ขอบอกเลยว่าผมจัดแน่นและเต็มมาก ทำให้ไปไม่ครบเลย อีกทั้งที่เที่ยวแต่ละที่ก็ห่างกันคนละทิศละทาง บางทีก็เดินจนล้า เดินหลงซะส่วนใหญ่เพราะแผนที่ไม่ชัดเจน (คิดว่าทำมาดีแล้วแต่ยังดีไม่พอ) สำหรับใครที่อ่านแล้วอยากจะไปตามที่ผมไปละก็แนะนำเลยว่าอย่า!!! อ่านขำๆได้ ไม่แนะนำให้วางแผนตามเพราะจะทำให้พลาดและไปไม่ครบในหลายที่เพราะมีเวลาน้อย ส่วนฤดูหนาวหกโมงเช้าก็ตื่นมาเที่ยวได้แล้วเพราะสว่าง แต่เย็นๆสัก 5 โมงก็มืดแล้ว  

          เอ้า!!!  สาธยายมาตั้งเยอะแล้วได้เวลาอ่านเรื่องเล่าแล้วครับ เริ่มตั้งแต่การเดินทางกันเลย...
........................................................................................................................

     ในที่สุดก็ถึงวันเดินทางแล้ว วันที่ต้องเดินทางแบบจัดเต็มข้ามวันข้ามคืน วันนั้นจำได้เลยออกเดินทางจากที่ทำงานประเทศลาวตอนตีสี่ (เดินทางตี 4 แต่ตื่นตี 2) กว่าจะถึง บขส.เลยก็เกือบ 11 โมง มาถึงก็หาอะไรทาน จากนั้นก็เดินทางไปอุดรเพื่อต่อเครื่องไปกรุงเทพ  ถึงกรุงเทพก็ไปโรงแรม พักผ่อนจัดของได้สักพักก็เดินทางต่อไปสนามบินสุวรรณภูมิ....

     ผมก็ว่ามาเร็วแล้ว Check In ก๋อนเกือบสามชั่วโมง แต่เที่ยวบินรอบที่ไปคนเยอะมาก ดีที่มาก่อน รอได้สักพักก็เสร็จ พนักงานจัดที่นั่งรอบไปฮ่องกงให้แถวกลาง รอบไปโตเกียวแถวริม เมื่อผ่านการตรวจทุกอย่างก็ได้เวลาเข้าสู่โถงของสนามบิน

  จุดแรกที่เข้ามาก็จะเจอรูปปั้นกวนเกษียรสมุทธอันนี้แหละ ที่ใครแวะผ่านไปมาก็ต้องมาถ่ายรูป จากนั้นก็เดินไปยัง Gate ที่เราต้องขึ้นเครื่อง เมื่อได้เวลาถึงเวลาที่ต้องบินไปยังเกาะฮ่องกงแล้วว


     เครื่องเที่ยวนี้มีปัญหาเกี่ยวกับสัมภาระของผู้โดยสารทำให้ต้องตรวจกันอีกรอบ เลยทำให้เครื่องออกช้า แต่ผมไม่ซีเรียสเพราะทำเพื่อความปลอดภัยของทุกๆคน สำหรับบนเครื่องก็มีเพลงให้ฟัง มีหนังให้ดูมีกล้องติดให้ดูด้วยว่าพื้นข้างล่างเป็นยังไงบ้าง เพราะเป็นคนไม่ทานเนื้อวัว ทางสายการบินก็เลยจัดอาหารที่ไม่มีเนื้อวัวมาให้มีแฮมเบอร์เกอร์ ขนมปัง ผลไม้ รสชาติพอกินได้เพราะไม่ค่อยหิว เพิ่งตีสามตีสี่เองอ่ะ แต่กินเพราะเสียดาย

     เมื่อถึงสนามบินฮ่องกง ก็ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองอีกรอบ เช้านี้คนมารอกันเยอะพอสมควร แต่ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย ผ่านออกมาอยู่ที่ Terminal 2 ที่นี่มีแบรนเนมเยอะมาก ผมได้แต่ดูเฉยๆเพราะไม่มีเงินซื้อ เดินได้สักพักก็หาที่นั่งแล้วใช้ WIFI Free ที่มีบริการอ่านข่าวและเตรียมโปรแกรมเพื่อที่จะต้องเดินทางต่อ ถึงมื้อเช้าจะทานแล้วแต่ก็ยังรู้สึกหิวอยู่ดี พี่ชายผู้ใจดีเลยซื้อแมคโดนอลมาให้กิน เห็นแพคเกจสวยดีเลยถ่ายมาด้วย สำหรับรสชาติก็จืดๆ


     บรรยากาศโดยรอบดูทันสมัย มีวอลเปเปอร์ให้ถ่ายรูปกับฉากงิ้วด้วยเลยขอแอคชั่นหน่อย ตามประสาคนชอบถ่าย เมื่อได้เวลาเดินทางก็ เดินลงไปชั้นล่างเพื่อขึ้นรถไฟไปต่อเครื่องที่ Terminal 1 ไปยัง Gate ที่ต้องขึ้นเครื่อง

 

    เครื่องรอบนี้ต้องใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมงในการเดินทาง มีอาหารบริการคิดว่าคงเป็นไก่ผัดซอสแต่เหม็นไหม้หน่อยๆ แต่ก็พอกินได้

 
...นั่งบนเครื่องยังตื่นเต้นมากขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดเลยว่าพอถึงญี่ปุ่นจะดีใจแค่ไหน...



อ่านเรื่องราวอื่นๆได้
Myanmar / Korea / Laos /Japan


  


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ສະບາຍດີເມືອງລາວ 1 (ໄຊຍະບູລີ) ... สบายดีเมืองลาว 1 (เมืองไซยะบุรี)

9 พระพุทธรูปและพุทธสถานศักดิ์สิทธิ์รอบเจดีย์ชเวดากอง : 9 wonders of Shwedagon Pagoda

เลาะเลี้ยวเที่ยวเมืองตาก...เก็บสตรอว์เบอร์รี ดูเมล็ดกาแฟอาราบีก้า ที่ดอยมูเซอ