Sugoi Hokkaido 2
หลายคนคิดว่าถ้าไปญี่ปุ่น ต้องไปดูหิมะ ช่วงฤดูหนาว
แต่จะมีใครรู้บ้างหล่ะว่าฤดูร้อนญี่ปุ่นก็มีของดี อยู่ที่นี่ "ฟาร์มดอกไม้ที่ฮอกไกโด"
หลังจากนอนเต็มติ่มกับคืนแรกที่ฮอกไกโดไปแล้ว เช้านี้ก็ได้ไปตะลุยตามแผนที่วางไว้ คือไปชมสวนดอกไม้แสนสวยที่ฟุราโนะ
เมื่อใกล้ถึงเวลาก็ไปรอรถไฟ ตอนรอรถชุลมุนพอสมควรเพราะผมไม่รู้ว่าต้องเข้าแถวตรงไหน ก็ตามๆกันไป ดูว่าตู้ไหนเป็นตู้ที่ไม่ต้องจอง พอใกล้ถึงเวลารถไฟมาจอดก็ขึ้นไปบนรถไฟ ขบวนที่ผมนั่งมีสองชั้น ผมนั่งชั้นบน
สำหรับบรรยากาศบนรถก็เป็นไปตามภาพ ที่นั่งแถวคู่ด้านบนและด้านข้างเป็นกระจกใส ซึ่งกระจกด้านข้างสามารถดึงม่านลงมาปิดได้ พอรถแล่นออกผมก็นั่งมองตามข้างทาง จนเผลอหลับไป
ตื่นมาอีกทีก็ตอนที่แดดส่องหน้านี่แหละ นี่ขนาดขึ้นรถไฟมาเที่ยวเช้าแล้วนะยังรู้สึกร้อนขนาดนี้ เลยมองๆดูด้านบนว่ามีม่านหรืออะไรปิดได้ไหม แต่ดูๆแล้วท่าทางคงจะไม่มี นั่งหลบแดดเอียงซ้าย เอียงขวา จนสองข้างทางตอนนี้เต็มไปด้วยทุ่งหญ้า ทุ่งนา ใกล้ถึงเวลารถไฟก็แล่นผ่านอุโมงค์ ผ่านหุบเขาแล้วก็มาจอดที่สถานีฟุราโนะ
พอลงจากรถไปขบวนนี้ก็ต้องรีบขึ้นไปอีกขบวน ครั้งแรกกะว่าจะไปฟาร์มโทมิตะเลย แต่ขบวนที่นั่งไปจอดแค่สถานี นาคาฟุราโนะ เลยเปลี่ยนใจไปที่นาคาฟุราโนะฟาร์มก่อนแล้วค่อยเดินไปฟาร์มโทมิตะ
...รถไฟขบวนนี้แล่นมาได้ไม่นานก็ถึงสถานีนาคาฟุราโนะ...
ถึงแล้ว...ลงสถานีนี้แหละ
เอาแล้วหล่ะสิครับ ถึงสถานีนี้แล้วไปยังไงต่อ ก็เลยสังเกตคนแถวนั้นแล้วเสี่ยงดวงดู ไปตามเค้าแหละ ด้วยความรีบ เลยมีภาพแค่นี้
รอด้วยสิ...
หลังจากเดินผ่านทางเชื่อมมา ก็เดินตามคนอื่นไปเรื่อย จนเจอ...
ศาลเจ้า เมื่อถึงศาลเจ้าแล้วก็เลี้ยวขวา เดินตรงไปเรื่อยๆ สุดท้ายผมก็มาถึงแล้ว...
นาคาฟุราโนะฟาร์ม ร้องอือหือออกมาเลย เพราะว่าสวยมาก ทุ่งดอกไม้หลากสี แต่ถ้าจะให้ดีแนะนำให้ขึ้นกระเช้าไปด้านบนแล้วถ่ายภาพจากด้านบนลงมา คือสวยมาก ขนาดคนไม่ค่อยมีทักษะการถ่ายภาพอย่างผมยังถ่ายมุมไหนก็ออกมาสวยเลย
ชมด้านล่างเสร็จก็ขึ้นกระเช้าไปชมด้านบนต่อ สำหรับค่ากระเช้าผมก็จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่รู้ว่าไม่แพงมาก ด้านบนจะมีที่ให้นั่งถ่ายรูปด้วย ถ่ายลงมาด้านล่างสวยสุดๆ
เดินถ่ายข้างบนอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็นั่งกระเช้าลงมาด้านล่าง อากาศในวันที่ผมไปคือแบบสิบโมงกว่าแต่ร้อนผิดคาดเลย เหงื่อหยดจนซับไม่ทัน ปกติก็ดำอยู่แล้วมาเจอแดดที่นี่คือดำไปใหญ่ ร้อนมาก พอถึงด้านล่างเลยแวะไปหาอะไรที่ช่วยดับกระหายหน่อยละกัน แล้วผมก็เดินไปซื้อ...
...ลองสักหน่อยละกัน...
สำหรับรสชาติของขวดที่ว่านี้จะคล้ายๆสไปร์ คือหวานและซ่าแต่กินเยอะมากไม่ได้ เพราะลูกแก้วในขวดจะไหลไปอุดตรงปากขวด ผมคาดว่าคงจะให้คนซื้อแค่พอจิบๆ ไม่ให้ยกดื่มในองศาที่มากเกินไป (คิดเยอะไปป่ะ หมายถึงผมนะ ไม่ได้หมายถึงคนคิดบรรจุภัณฑ์นี้)
ชมบรรยากาศที่ฟาร์มนี้พอหอมปากหอมคอก็ได้เวลาเดินทางไปอีกฟาร์ม ระยะทางดูเหมือนจะไม่ไกล แต่ผมเดินชิลไปเรื่อยๆประมาณยี่สิบนาทีก็มาถึง ฟาร์มโทมิตะ
ตอนไปถึงก็ใกล้เที่ยงแล้ว อาหารจากโรงแรมย่อยหมดแล้ว ก่อนจะไปชมฟาร์มแวะหาอะไรแถวนั้นก่อนดีกว่า มองซ้ายมองขวาก็ไปเจอร้านขายข้าวอยู่เลยแวะเข้าไป แล้วสั่งรอคิวสักพัก ระหว่างรอก็หาที่นั่ง คนเยอะมาก แต่ก็ยังโชคดีที่มีโต๊ะนึงลุกไปตอนที่เรากำลังหาพอดี ก็เลยจับจองตรงนั้ง และในที่สุดก็ถึงคิวเราแล้วววว อาหารที่ได้ก็หน้าตาเป็นแบบนี้เลย
อร่อยอ่ะ ข้าวราดแกงกะหรี่ ราคาพอสมควร
ตบด้วยของหวาน ชิ้นละสองร้อยบาท ฉ่ำมาก อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหาร ก็ได้เวลาเดินชมฟาร์มกันแล้ว
ออกมาจากร้านอาหารเห็นข้าวโพดก็อยากกินอีก แต่คืออิ่มมาก ไว้โอกาสหน้าละกันเนอะ
และแล้วก็มาถึงแล้ว จุดมุ่งหมายของเราในวันนี้ ทุ่งลาเวนเดอร์ ฟาร์ม โทมิตะ
ถ่ายกับป้ายหน้าฟาร์มหน่อย เดี๋ยวเค้าจะหาว่ามาไม่ถึง
ไฮไลท์ของที่นี่นอกจากทุ่งลาเวนเดอร์แล้วก็คือทุ่งดอกไม้หลากสี คือชอบมาก สวยสุดๆไปเลยครับ
อากาศร้อนมาก ก่อนกลับจัดไอศกรีมโคนลาเวนเดอร์สักอัน คือแบบ ชื่นใจ...
วันที่ผมไปเจอผู้คนเยอะมาก ทั้งคนญี่ปุ่น คนจีน และคนไทย หลังจากชมสวนเสร็จผมต้องรีบไปขึ้นรถไฟเพราะจะไปอีกฟาร์ม กะเวลาไว้แล้วนะว่าจะไปถึงพอดี แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง เพราะ...
เค้ากั้นทางไว้แล้ว ไม่ให้เดินผ่านรถไฟ คือตอนนั้นเซงมากแบบอุตส่าห์วิ่งมาแต่ไม่ทัน เลยเดินกลับไปที่ฟาร์มโทมิตะอีกรอบ แล้วเดินกลับมารอบเย็น ตรงข้างทางมีเมล็ดพันธุ์ลาเวนเดอร์ขายด้วย 3ห่อ 500 เยน ลองซื้อมาปลูกที่บ้านที่แม่สอดดู ไม่รู้จะขึ้นรึเปล่า
พอรถไฟรอบเย็นมา ผมก็นั่งยาวไปถึงอาซาฮีคาว่า เพราะเวลามีน้อยเลยทำให้ไม่ได้ไปอีกฟาร์ม แอบเสียดาย แต่ก็นะทำอะไรไม่ได้ รถไฟขบวนโนโรคคุ เป็นแบบ open air ม่านปิดไม่มี ถ้าใครนั่งฝั่งซ้ายก็เตรียมอุปกรณ์กันแดดไว้เลยเพราะแดดแรงมากๆ นอกหน้าต่างจากป่า เขา ต้นไม ค่อยๆเป็นเมือง พอถึงสถานีอาซาฮีคาว่ามีเวลาต่อรถไฟแปบเดียว ไม่ทันได้ดูอะไรมาก แล้วรถไฟกลับไฟซัปโปโรก็มา...
.......................................................................................
เรื่องเล่าตอนนี้อาจจะไม่ค่อยมีมากเท่าไหร่นะครับ เพราะเน้นรูป
ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายในวันนี้ก็มีค่ารถไฟ ไป-กลับ 5550 เยน
ค่าน้ำ ค่าอาหาร ค่ากระเช้า ค่าไอศกรีม ค่าผลไม้ ประมาณ 4000 เยน (ทานเยอะมาก)
ส่วนค่าเข้าชมสถานที่ไม่ต้องเสีย ฟรี!!!
.......................................................................................
นาคาฟูราโนะ
นาคาฟูราโนะ
นาคาฟูราโนะ
นาคาฟูราโนะ
นาคาฟูราโนะ
นาคาฟูราโนะ
นาคาฟูราโนะ
นาคาฟูราโนะ
นาคาฟูราโนะ
นาคาฟูราโนะ
นาคาฟูราโนะ
นาคาฟูราโนะ
ตามทาง
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
โทมิตะ ฟาร์ม
บ้านของชาวบ้าน ถ่ายตอนรอรถไฟ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น