May Japan 4 :หลบร้อนไทย มาเจอร้อนแบบญี่ปุ่นที่โตเกียว

ถ้าไทยจะร้อนขนาดนี้ หลบร้อนไปที่ประเทศญี่ปุ่นดีกว่า
แล้วมันจะหนีร้อนได้จริงไหม???
 

     หลังจากสภาวะอากาศแปรปรวน เมฆฝนปกคลุมมาทั้งวี่ทั้งวันมา 3 วัน เมื่อมาถึงโตเกียวเช้านี้ก็ได้เจออากาศดีๆอีกครั้ง 
     เมื่อรถมาถึงชินจูกุ ครั้งนี้ไม่ได้ไปลงที่สถานีรอรถบัสนะ พอผมเห็นคนลงกันผมก็ลงตาม พอลงละเอ๋อเลยไม่รู้จะไปไหน เพราะโรงแรมก็เอากระเป๋าไปฝากไม่ได้ แว๊บแรกเลยก็คิดได้ว่ามีคาเฟ่นี่หว่า เลยลองค้นหาดูในอินเทอร์เนตละเจอร้านมา ร้านนี้ตั้งอยู่แถวๆ คาบูกิโชว์ แต่เสียดายจำชื่อไม่ได้

 
เมื่อไปถึงตึกก็ขึ้นไปชั้น 8 จะเจอ Cafe ผมรอจนถึงหกโมงก็เข้าพัก เลือกแบบ 2 ชั่วโมง เสียค่าใช้จ่าย 520 ¥ /คน มีแบบที่นั่ง และแบบเป็นห้อง ผมเลือกแบบเป็นห้อง ถ้าไม่มีผ้าเช็ดตัวสามารถเช่าได้ ข้างในก็เป็นห้องสำหรับพัก มีห้องน้ำให้อาบ สุขาให้เข้า มีWifi ให้ใช้ ทีวีให้ดู  ถ้าเป็นผู้หญิงก็มีแยกฝั่ง อาบน้ำล้างหน้าเสร็จแล้วสบายตัว หลับปุ๋ย ตื่นมาอีกทีก็ตอนใกล้หมดเวลาก็ได้เวลาเดินทางกัน

     เดินจนมาถึงสถานีรถไฟชินจูกุ แล้วก็นั่งรถไฟไปที่สถานี IKEBUKURO ฝากกระเป๋า แล้วขึ้นไปรถไฟไปลงที่สถานี Nishi-Nippori เพื่อต่อรถไป...

 
ศาลเจ้าเนซึ 
     การเดินทางมาศาลเจ้าเนซึ สามารถเดินทางด้วยรถไฟ โตเกียวเมโทร มาลงที่สถานี Nezu แล้วเดินเรื่อยๆไปยังศาลเจ้าเนซึได้ รอบศาลเจ้ามีต้นไม้เยอะมาก ภายในศาลเจ้ามีตัวอาคารหลักที่โอ่อ่าและสวยงาม อาจจะเห็นจิตรกรนั่งวาดอยู่ตามที่ต่างๆในศาลเจ้าครับ

 
     ด้านข้างอาคารหลักมีประตูโทริด้วย

 
เมื่อเดินผ่านไปได้ครึ่งทางจะเจอศาล
มองจากด้านล่างไปบนศาล
 

 
สิ่งต่างๆโดยรอบ บรรยากาศร่มรื่นมากครับ


     สำหรับศาลเจ้าเนซึนี้ ผมว่าบรรยากาศดีมากครับ คนก็ไม่ค่อยเยอะ มีประวัติความเป็นมายาวนาน เพราะเป็นอาคารที่ไม่โดนทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และ เป็นหนึ่งในอาคารที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น หากใครมีเวลาสามารถแวะมาที่นี่กันได้ครับ หลังจากนั้นก็ไป...สะพานนิจูบาชิ

     ว่าจะหลบร้อนที่ไทย พอมาเจอแดดที่ญี่ปุ่นนี่สุดๆ  อากาศร้อนมาก หลบร้อนมาเจอร้อนเลย จากสถานี Otemachi ไปสะพานนิจูบาชินี่ไกลพอสมควรเลยครับ ช่วงที่ออกมาจากสถานีรถไฟก็คงเป็นเวลาพักกลางวันของพนักงานแถวนั้น สวนสาธารณะคนเยอะมาก แต่เงียบมาก ไม่มีใครส่งเสียงดังเลย และแล้วก็มาถึงจนได้

 
สะพานนิจูบาชิ
     มาตอนเที่ยงคือแดดแรงสุดๆ ไม่มีอารมณ์อยู่ตรงนั้นเลย ร้อน!!!

แล้วผมก็ต่อรถไปยังอาซากุสะ โดยขึ้นจากสถานีโตเกียว รถไฟสาย Yamanote ไปลงสถานั Ueno

หลังจากนั้นก็เปลี่ยนไปนั่งรถไฟใต้ดิน ไปลงสถานีอาซากุสะ

ระหว่างเดินเจอตู้ไอศกรีม ขอทานหน่อย ร้อน ทนไม่ไหว

     พอถึงสถานีก็ถามเจ้าหน้าที่ว่าทางไหนไปวัดเซนโซจิ เจ้าหน้าที่ก็จะบอกเราว่าทางไหนครับ เมื่อขึ้นมาบนพื้นดินก็อาจจะเดินชิลดูของกินตามทางไปเรื่อยๆ หรือเดินไปที่อารามหลังเลย 
 
     ช่วงที่ไปคนเยอะมาก เจอพี่ๆน้องๆชาวไทย ตลอดทางเลยครับ 

 
     เอาจริงๆนะ ผมยังคิดเลยว่าคนที่มาโตเกียว ส่วนใหญ่ก็ต้องมาที่วัดนี้ และต้องถ่ายรูปกับโคมแดง เปรียบเสมือนว่าฉันมาถึงญี่ปุ่นแล้ว 555 และหลังจากถ่ายรูปกับโคมแดงเสร็จ ก็ต้องเข้าไปสักการะเจ้าแม่กวนอิมภายในอารามกันด้วยครับ
     
     หลังจากชมวัดเสร็จ ก็หาอะไรรองท้องกันสักนิด ระหว่างทางเดินไปห้าง ROX Asakusa ก็ไปเจอกับเจ้านี่ซะก่อน...ทาโกยากิ เห็นราคา ลูกละ 100 ¥ ถ้าซื้อ 5 ลูก 600 ¥ จัดไป
 

     เสิร์ฟจากเตาร้อนๆแบบนี้ดีงามสุดๆ อร่อยมาก ปลาหมึกชิ้นโตๆ คนละเรื่องกับที่เคยชิมในไทยเลย

แล้วไปกันต่อที่ห้อง ROX Asakusa ห้างนี้มีของจำหน่ายมากมายเลย มีสองอาคาร ที่ห้างนี้แวะมาดู Anello ให้เพื่อน ราคาเท่ากับข้างนอก แต่ที่แตกต่างคือคืนภาษีไม่ได้ จากนั้นก็ไปดงกิโฮเต้ต่อ สาขานี้ของเยอะมาก ในความคิดคือเยอะกว่าที่ Ikebukuro กับ Ueno ขนมที่นี่แบบว่าเยอะสุดๆ เครื่องสำอางจัดเต็ม มีครบทุกอย่างที่ต้องการ ไปสาขาอื่นหรอ ตัวนี้หมด ตัวนั้นหมด ซื้อไม่ถึงคืนภาษีไม่ได้อีก สำหรับรถเข็น ช่องกว้าง ไม่เบียดเสียดเลย

     หลังจากตัวเบาแล้วก็ต่อรถกลับไป Ueno ต่อรถไป Ikebukuro เอากระเป๋า พอถึงปัญหาอยู่ที่ จำไม่ได้ว่าเอากระเป๋าไว้ตรงไหน 5555 เดินหานานมาก กว่าจะเจอ แล้วก็กลับโรงแรม

คืนนั้นก็เดินดูซื้อของแถว Ikebukuro พักย่านนี้ของกินเพียบ ให้ให้ซื้อของก็เพียบ ดองกิโฮเต้ก็เปิด 24hr ด้วย

 
และแวะกินข้าวแกงกะหรี่สุดอร่อยที่ร้าน Go Go Curry

วันสุดท้ายยยยยยยยยยยย วันชิล

     หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จ แผนวันนี้คือชิลๆรอบโตเกียว หลังจากคำนวณค่ารถไฟต่างๆในวันนี้เสร็จสรรพปรากฎว่าแพงกว่า 750 ¥ วันนี้ผมเลยซื้อตั๋ว 1 day สำหรับนั่งรถไฟ JR ภายในเขตโตเกียว จากตู้ซื้อตั๋ว

     ขากลับผมนั่งเครื่องที่สนามบินฮาเนดะ ผมเลยเอากระเป๋าไปฝากไว้ที่สถานี Hamamatsucho เมื่อถึงสิ่งนึงที่คิดผิดคือ คิดว่าตู้จะว่าง แต่เปล่าเลย ตู้สำหรับกระเป๋าใบใหญ่เต็มหมด คนอื่นคงคิดเหมือนเราละมั้ง ว่าฝากไว้ก่อน เที่ยวเสร็จค่อยมาเอา เจ้าหน้าที่เลยบอกว่ามีตรงข้างบันได เดินไม่ห่างจากทางออกมาก็เจอ ใครที่หาไม่เจออย่าเงียบ ถามเจ้าหน้าที่ดูได้เลยครับ พอเดินไปถึงตู้ที่ได้รับคำแนะนำ เฮ๊ย...เป็นตู้แบบหยอดเหรียญนี่หว่า ต้องควักกระเป๋าหาเหรียญ 100 ¥ สุดริด เงื่อนไขง่ายๆของตู้ส่วนใหญ่คือ ไขได้ครั้งเดียว เที่ยงคืนนับเป็นหนึ่งวัน และห้ามทำกุญแจหาย!!!

เพราะเต็มอิ่มกับญี่ปุ่นมาก วันนี้เลยได้แต่แวะไปถ่ายรูปแลนด์มาร์ค

 
ที่แรกเลยรูปปั้นฮาจิโกะ สุนัขผู้ซื่อสัตย์
จะแวะมานี่ต้องลงที่สถานีชิบูญ่า 
ถ้าจะถ่ายรูปให้ต่อคิวกันด้วยนะครับ

 
   
 
     ที่ที่สอง ฮาราจูกุ หลบร้อนไทยมาเจอร้อนที่นี่ก็เลยต้องดับร้อนด้วยของหวานๆ เครปญี่ปุ่นสุดแสนอร่อย อันนี้เป็นชาเขียว ราคา 480 ¥ เดินเข้ามาตามถนน จะเจอร้านสีน้ำเงินแบบนี้นะครับ ที่ฮาราจูกุร้านขายกระเป๋า Anello เยอะมาก บางร้านคืนภาษีได้ บางร้านไม่ได้ บางร้านมีใบสีนี้ บางร้านมีใบสีนั้น อยากจะเอามารวมๆกันแล้วคืนภาษี ซื้อทีละใบ ยอดไม่ถึงคืนภาษีไม่ได้เลย ถ้าจะซื้อใบไหนก็อย่าลังเล นี่เจอมากับตัวลังเลใจว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อดี วางปุ๊บคนอื่นหยิบปั๊บบบบ เสียใจสุดๆ


     ที่สุดท้ายของทริปนี้ Ueno ทีแรกกะว่าจะไปตึกม่วงแต่แค่เดินดู Ameyakocho ก็หมดวันละ ทั้งเสื้อผ้า และกระเป๋าแวะทุกร้าน หลายใบหาที่อื่นไม่ได้ที่นี่ก็มี ของลดราคาน่ารักๆก็เยอะ  

 
แยกซ้ายส่วนใหญ่เป็นร้านขายอาหาร แยกขวาเสื้อผ้า กระเป๋า

ผลไม้ก็อร่อยครับ 

   และอาหารเย็นวันนั้นก็จัดกันที่ Ueno นี่แหละครับ นั่นก็คือ...

 
   

  ซาซิมิ มื้อนั้นสั่งซาซิมิ 7 อย่าง ปลา หอย กุ้ง

 
กับข้าวหน้าหมู
     ผมว่าคนที่ชอบของสดๆ คงชอบมากแน่ๆ แต่ผมนี่ทานไม่ค่อยได้เลย ไม่ถนัดกินของสดๆ แต่ก็ชิมครบทุกอย่าง ชิมไปคอขึ้นไป

     อิ่มกันแล้วก็เดินทางต่อไปสถานีรถไฟ รับกระเป๋าที่ฝากไว้ ขึ้นโตเกียวโมโนเรลไปสนามบินฮาเนดะ

     ใครอยากจะซื้อของฝาก Duty free ภายในสนามบิน ก็มีของขาย แต่ไม่เยอะเท่าไหร่ สำหรับคนที่ยังมีเหรียญเหลือก็แวะมาใช้เงินเหรียญกันได้ครับ

เมื่อเสียงประกาศก็ได้เวลากลับ
จากญี่ปุ่น ถึง สิงคโปร์
จากสิงคโปร์ ถึง ไทย
 
สวัสดี

-----

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ສະບາຍດີເມືອງລາວ 1 (ໄຊຍະບູລີ) ... สบายดีเมืองลาว 1 (เมืองไซยะบุรี)

9 พระพุทธรูปและพุทธสถานศักดิ์สิทธิ์รอบเจดีย์ชเวดากอง : 9 wonders of Shwedagon Pagoda

เลาะเลี้ยวเที่ยวเมืองตาก...เก็บสตรอว์เบอร์รี ดูเมล็ดกาแฟอาราบีก้า ที่ดอยมูเซอ