May Japan 2 : หลบร้อน รับลม ชมดอกไม้ @ฟูจิ



    ด้วยอากาศที่ไทยปีนี้นั้นร้อนมาก ผมจึงมาหลบแดดไกลถึงญี่ปุ่น แต่ว่าจะได้หลบแดดไหม เชิญติดตามได้เลยครับ


     หลังจากพักผ่อนกันอย่างเต็มที่จนแทบไม่อยากลุกจากเตียง แผนการเดินทางในวันนี้คือชมทุ่งดอกชิบะซากุระที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ 

     จุดเริ่มต้นของการเดินทางคือสถานีรถบัสชินจูกุ การเดินทางไปสถานีรถบัสนั้นไม่ยากเลยครับ เพียงออกทาง south exit แล้วข้ามถนน ก็มาถึงแล้ว จากนั้นขึ้นไปชั้นสี่จะเจอผู้คนพลุกพล่าน นำตั๋วที่จองไปถาม information เค้าก็จะแนะนำมาว่าให้ไปจ่ายเงินค่าตั๋วตรงไหน

     หลังจากรู้ที่รู้ทาง จ่ายเงินเรียบร้อยก็นั่งรอ ตรงที่รอรถมีห้องน้ำ ล็อคเกอร์ฝากกระเป๋า ตู้สำหรับจำหน่ายเครื่องดื่มเมื่อรถมาก็ขึ้นไปนั่งตามที่ที่ระบุบนตั๋ว บนรถมีที่สำหรับผู้หญิงด้วย Woman Only แล้วบนรถก็ยังมีห้องน้ำอีกด้วยครับ

     รถคันที่นั่งไปนี้แรนด้อมที่นั่งให้แบบว่าเจอแดดจังๆ นั่งฝั่งขวา ร้อนมากๆ เลยสลับที่นั่งกับบัดดี้

พอรถแล่นไปไม่ทันไร ผมก็หลับ!!!

     ตื่นมาอีกที่ก็เริ่มเห็นภูเขาไฟฟูจินิดๆ และเริ่มชัดขึ้น ชัดขึ้น ชัดขึ้น จนดีใจว่าวันนั้นฟูจิไม่อายเราแฮะ ออกมาให้เห็นแบบไม่มีเมฆมาบด มาบังเลย

 
     ฟูจิสวยมากวิวสวยสุดๆ คือลืมแดดที่เจอเมื่อกี้ไปเลย ถ้าไม่มีแดด คงไม่ได้เจอฟูจิจอมขี้อายนี้แน

แล้วรถก็วิ่งผ่านฟูจิคิวไฮแลนด์ จนมาถึงสถานีคาวากุจิโกะ

     เมื่อถึงสถานีผมก็ไปแลกตั๋วกลับ ช่วงเทศกาลเจอคนไทยที่สถานีนี้เยอะมาก เยอะกว่าคนญี่ปุ่นอีกมั้ง พอธุระที่สถานีเสร็จก็ไปโรงแรมเพื่อเอากระเป๋าไปฝาก เจ้าหน้าที่โรงแรมบอกว่ายังไม่ถึงเวลาเช็คอิน ผมเลยฝากกระเป๋าเพื่อที่จะเดินทางไปข้างนอก แล้วเค้ายังบอกอีกว่ามาวันนี้โชคดีมากเพราะพรุ่งนี้หรือไม่ก็มะรืนฝนจะตกหนัก

 

วันนี้เจอเต็มๆ แบบไม่มีเมฆบัง

     หลังจากนั้นก็มารอซื้อตั๋วเพื่อเดินทางไปดูชิบะซากุระ ที่แพลตฟอม 7 จะได้เป็นตั๋วรถ ตั๋วเข้าชมเทศกาลและโปสการ์ด คนต่อแถวยาวมาก ตอนที่รอที่นั่งบนรถเต็มแล้วเจ้าหนี้ที่เลยถามว่ายืนไปมีใครจะไปไหม ทีแรกคนก็เงียบกันทำหน้างง ผมเลยยกมือแล้วบอกว่าสามารถยืนไปได้ เพราะถ้ารอรถคันต่อไปคงอีกนาน แล้วไม่รู้ว่าเมฆจะมาบังฟูจิไหม พอผมขึ้นก็มีคนขึ้นอีกเป็นสิบคนเลย ยืนตอนแรกก็ไม่เมื่อยหรอก แต่วันนั้นคือรถติดนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกก สุดท้ายก็ได้นั่ง 555 คือนั่งตรงบันไดทางขึ้นลงรถเลย บันไดตรงกลางรถครับ ไม่ใช่ด้านหน้า
     เมื่อถึงแล้วก็ลงรถยืดเส้นยืดสาย แล้วเดินตามคนอื่นเขาไปที่ทางเข้า โชว์ตั๋วแล้วเข้าไปในงาน บรรยากาศแบบ...
 
สวยมาก สวยจนลืมเมื่อย ว่าแต่ฟูจิอยู่ไหนนะ!!!

 
     เดินอ้อมไปอีกทางก็เจอแล้ว ฟูจิซัง แม้จะมีเมฆมาบังบ้างแต่ความสวยก็ไม่ลดลงเลยนะเธอ


 
ว้าวววว ฟูจิชิบะซากุระ

 
บนจุดชมวิว ก็มองเห็นสวนดอกไม้โดยรอบด้วยนะ

 
ชมพู ม่วง ขาว และภูเขา

  
มีดอกไม้อื่นๆด้วยนะ

     ว่าจะหลบร้อน แต่ไม่มีที่ร่มเลยนะเออ คือร้อนมาก ถ้าได้มาในวันที่แดดจัดๆ ควรพกร่มและทากันแดดที่กันยูวีด้วยนะครับ เดินไปสักพักชักเริ่มหิว ที่นี่ก็มีโซนอาหารด้วย ถึงคิวจะยาวมากแต่รอแปบเดียว วิธีการคือ เล็งเมนูที่ร้านชอบ ต่อคิว เมื่อถึงคิวเราหยอดเงินไปที่ตู้ กดเมนู จะได้กระดาษและเงินทอน นำไปยื่นที่ร้านก็ได้อาหารมาแล้ว
  
ยากิโซบะ กับอะไรไม่รู้ แต่อร่อยดี แม้จะมีอาหารหลากหลาย แต่ที่นั่งน้อย ถ้าตรงไหนว่างก็ต้องรีบเสียบ อิอิ
นี่ผมก็ได้นั่งกินกลางแดด คนอื่นยังนั่งได้ แค่นี้ทำไมจะทนไม่ได้เนอะ

 
กินคาว แล้วก็ต้องตามด้วยของหวาน ชื่นใจสุดๆ

     หลังจากอิ่มแล้วผมก็เดินดูบรรยากาศรอบ จนเก็บความประทับใจใส่จนเต็มเมมโมรี่ แล้วก็ได้เวลากลับ ขากลับไปปุ๊บได้ขึ้นปั๊บมีที่นั่งไม่ต้องยืน คนคงเริ่มทะยอยกลับกันแล้วรถเลยไม่ค่อยติด ไม่นานรถก็มาถึงสถานีคาวากุนิโก๊ะ

รถถึงสถานีก็กลับโรงแรมแล้วพักผ่อน

     เมื่ออาบน้ำล้างหน้าจนชื่นใจก็ได้เวลาเดินเล่นกันต่อ สำหรับการเดินทางจากโรงแรมซึ่งอยู่ตรงข้ามสถานีคาวากุจิโกะไปยังทะเลสาบนั้น สามารถเดินทางไปได้ด้วยรถบัสโดยสาร แต่ผมอยากชมวิวเมืองไปด้วยเลยใช้การเดิน เดินไปเรื่อยๆ จนถึง อากาศเย็นแบบนี้เดินชิลสบายสุดๆ ในทะเลสาบมีคนปั่นเรือ รอบๆมีคนตกปลา วิ่งออกกำลังกาย

     เดินมาไกลมากจนคุยกับเพื่อนว่าฟูจิหายไปไหนนะ ทำไมหาไม่เจอ เดินไปก็งงไปว่าอยู่ตรงไหน จนเดินไปถึงอีกฝากเลยเจอแบบเต็มๆ 
 
     สวยมากกกกกกก ขนาดใช้กล้องโทรศัพท์ยังสวยขนาดนี้ ดีใจจัง ^^

 
พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว ก็ได้เวลากลับ
 
     คืนนั้นได้พักผ่อนเต็มที่ เช้าอีกวันตอนแรกมีหลายๆโปรแกรม แต่ฟ้าปิดฝนตกหนักมาก เลยไม่ไปไหน ได้แต่เดินเล่นรอบๆ และไปชิมเทมปุระที่ร้านชื่อดัง

     ถ้าหันหลังให้สถานีคาวากุจิโกะ เดินเลี้ยวไปทางซ้าย เดินไปจนถึงสี่แยกจะเห็นร้านแบบนี้ ด้านข้างเขียนว่า Tempura Restaurant ทางเข้าเขียนชื่อร้านว่า Fuji Tempura IDATEN 
  
     เมนูที่ร้านมีหลากหลายให้เลือกเลย ถ้าใครแพ้กุ้ง เมนูที่ไม่มีกุ้งก็มีครับ 
 
    เมนูที่ผมเลือกเป็นกุ้งสามชิ้น ปลาทอดหนึ่งชิ้น ผักทอดสามชิ้น (มะเขือ มันหวาน พริกหวาน)  ข้าวและน้ำซุปมิโสะแบบไม่อั้น  ราคา 1274¥ กุ้งกรอบนุ่มมาก และชอบมันหวานทอด อร่อยผุดๆ

     หลังจากอิ่มท้อง และเต็มอิ่มกับความประทับใจครั้งนี้ แม้จะได้หลบร้อนนิดนึง รับลมริมทะเลสาบแบบฉ่ำใจ และได้ชมดอกไม้ที่งดงามจนรู้สึกดี ก็ได้เวลาไปเอากระเป๋าที่โรงแรมแล้วมารอรถและกลับชินจูกุ เพื่อรอต่อรถรอบดึกไปยัง..,

-----
May Japan 3 : จากโทยามะ กำแพงหิมะ ถึงนากาโนะ





ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ສະບາຍດີເມືອງລາວ 1 (ໄຊຍະບູລີ) ... สบายดีเมืองลาว 1 (เมืองไซยะบุรี)

9 พระพุทธรูปและพุทธสถานศักดิ์สิทธิ์รอบเจดีย์ชเวดากอง : 9 wonders of Shwedagon Pagoda

เลาะเลี้ยวเที่ยวเมืองตาก...เก็บสตรอว์เบอร์รี ดูเมล็ดกาแฟอาราบีก้า ที่ดอยมูเซอ