Mayahimalayan ภาค 2 : หิมะสายัณห์ @เต๋อชิน
ความงามหลังเมฆา เหมือนมายาที่ฉายฉาบหิมาลายา ยามสายัณห์
-----
เช้าวันที่ 3 นี้ เป็นวันที่ต้องตื่นเช้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัวไปเต๋อชิน เมื่อเก็บข้าวของเรียบร้อยตีห้าปลายๆก็ได้เวลาออกเดินทาง เพราะเมื่อคืนแจ้งโรงแรมไว้แล้วว่าจะออกเดินทางแต่เช้า เจ้าหน้าที่เลยมาไขกุญแจให้แต่เช้า เพียงแต่ออกไปแล้ว ให้ปิดประตูไว้ให้ดี
ตามถนนหนทางมืดมาก ไม่ครึกครื้นแบบเมื่อคืนเลย ลากกระเป๋าไปก็กลัวจะทำให้คนอื่นตื่น เพราะพื้นของตัวเมืองเป็นหินที่ไม่เรียบ ลากไปก็ดังไป ช่วงที่ลงเขาเหมือนทางกำลังทำใหม่ หลุม บ่อเยอะมาก ทางก็มีแต่ดิน จากเมืองเก่าไปจนถึงถนนเล่นเอาซะเหนื่อย เมื่อมาถึงถนนก็มารอ Taxi เพื่อให้ไปส่งที่สถานีขนส่ง
เมืองจีนนี่ถือว่ามีระเบียบมากเลยครับ เพราะจะขึ้นรถคันไหนก็ต้องไปจุดจอดรถคันนั้น แล้วถึงโบกหรือถาม ติดต่อรถไปบอกเขาว่าจะไปขนส่ง Taxi ทำหน้างง เลยยื่นกระดาษที่เขียนว่าขนส่งให้เขาดูแล้วเขาก็พาไปจนถึงขนส่ง
จากนั้นก็ไปสแกนกระเป๋า ทีแรกตกใจมากเพราะลืมไปว่าซื้อออกซิเจนกระป๋องมา ราคา 20 หยวน ยังไม่ทันใช้เลย จะโดนยึดรึเปล่านะ แต่เปล่า ไม่ยึดและให้ผ่านมาได้ เมื่อใกล้เวลา ก็เดินไปหาคนเช็คตั๊ว เขาจะบอกรถว่าคันไหน แล้วก็ไปขึ้นตามนั้น
บนรถคล้ายๆรถปรับอากาศบ้านเรา กระเป๋าเอาไว้ชั้นล่าง ของมีค่าพกติดตัว ช่วงระหว่างรอรถออก ใครมีธุระหรือข้าศึกบุกต้องจัดการให้เรียบร้อย เพราะรถยิงยาว มีจอดแวะสามครั้ง บนรถไม่มีห้องน้ำ ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินคงแย่แน่
รถที่นี่ออกตรงเวลามาก 7.30 น. ปุ๊บออกทันที
กำลังจะออกจากเมืองแล้ว เสาไฟเก๋ดี ใช้โซลาร์เซลล์
ภูเขาหิมะมังกรหยก
บ้านของชาวบ้านตามทาง
ไม่รู้ว่าภูเขาอะไร แต่สวยดี
โค้งของแม่น้ำ
เมฆบนฟ้า เงาสะท้อนของภูเขาหิมะในน้ำ
นั่งชมวิวตื่นตาตื่นใจข้างทางจนมาถึงจุดจอดพักรถให้เข้าห้องน้ำ ใครเขินไม่กล้าใช้ห้องน้ำแบบเปิดเผยโล่งโจ้ง ต้องรอสักพักให้คนอื่นเข้ากันให้เสร็จก่อน ค่อยเข้าไปก็ได้ อาจจะมีกลิ่นบ้าง แต่ไม่เลวร้าย เพราะโดยรวมสะอาด เพียงแต่ไม่มีประตู ด้านนอกมีของกินขายด้วยตอนนั้นเริ่มหิวละ ไม่มีอะไรตกถึงท้องมาตั้งแต่เช้าเลยจัดไป
ทานอะไรดีนะ
มันเผาร้อนๆละกัน อากาศเย็นๆแบบนี้กินแล้วอุ่นดี
สำหรับมันเผา รสชาติหวาน มัน กลิ่นหอม อาจจะแกะยากและเลอะมือไปหน่อย ถ้ามีช้อนก็ใช้ช้อนตักกิน สะดวกไปอีกแบบ
เห็นภูเขามีหิมะไกลๆ
เจดีย์แบบทิเบต
บรรยากาศดี๊ดี
ถึงแชงกรีลาแล้ว รถจอดแวะที่ขนส่งที่นี่แปบนึง ใครอยากเข้าห้องน้ำบอกคนขับ
ความงามของท้องทุ่ง
น้ำๆคือนาปาไห่
หิมะเต็มเลย ตื่นตาตื่นใจมาก
Welcome To Magical DEQIN
เอาจริงเจอเมืองเต๋อชิน เขียนว่า Deqin Deqen ผมขอเลือกใช้ Deqen ตามแผนที่นะครับ
รถจอดแวะให้กินข้าว กับเข้าห้องน้ำ
มีให้เลือกหลายอย่างเลย แต่เลือกกินตงกวากับเนื้อสักอย่าง ชุ่มน้ำมันมาก
ไม่รู้หมูหรือจามรี ข้าวเติมได้ไม่อั้น
จากนั้นก็นั่งรถกันต่อ ชมวิวภูเขาหิมะเพลินๆ
ไม่รู้ว่ายอดอะไรบ้าง ใช่ Baima Snow Mountain รึเปล่านะ
ยิ่งสูง ยิ่งหนาว ยิ่งใกล้ขอบฟ้า
หิมะ 360 องศา
ลูกนี้แปลกตาดี
ไปไหนกันดี Meili Snow แน่นอน
ถึงเต๋อชินแล้ว
ตอนที่รถบัสมาจอดที่สถานีเมืองเต๋อชินนั้น ผมก็งงว่าจะไปเฟยไหลซื่อต่อยังไง เพราะมองออกไปนอกรถ ก็ไม่มีรถรับจ้างอะไรเลย คนก็เริ่มทะยอยลงรถ ผมก็นั่งมองดูว่าจะเอาไงต่อดี รถจะไปถึงเฟยไหลซื่อหรือหยุดแค่ตรงนี้ นั่งมองๆดู ก็ยังมีคนที่ไม่ลงอยู่บ้าง มีคนถามคนขับรถว่า "เฟยไหลซื่อหม่า" ผมก็งงว่าอะไรยังไงนะ คงถามว่าไปเฟยไหลซื่อรึเปล่ามั้ง แล้วคนด้านหลังถามพวกผมว่า เฟยไหลซื่อหม่า พวกผมตอบ Yes เค้าก็เลยสปีคอังกฤษใส่รัวๆ บอกว่าถ้าจะไปเฟยไหลซื่อ จ่ายเพิ่มกันคนละ 5 หยวน พวกผมเลยตอบโอเค เค้าก็แนะนำชวนคุยนั่นนี่ แล้วรถก็ออก
เดินทางต่อไปอีก 10 กิโลเมตร
ระหว่างทางไปเฟยไหลซื่อ
พอมาถึงเฟยไหลซื่อนี่แบบสุดยอดมากๆ บรรยากาศดีสุดๆ อากาศหนาวมาก สดชื่นมาก เฟรชเลย เมื่อมาถึงก็ถามเรื่องเวลาที่รถจะออกในวันต่อไป ขอเบอร์คนขับมาเผื่อจะกลับด้วยรถบัส
คืนนี้จะนอนที่ไหน
คำถามนี้ก็ลอยมาในหัว เพราะโรงแรมก็ไม่ได้จองล่วงหน้า ภาษาจีนก็พูดไม่ได้ แต่ก็เดินๆไปตามทาง มองหาโรงแรมที่ทำเลดีๆ มีระเบียง ห้องนอนสามารถมองเห็นภูเขาหิมะได้ จนเลยทางเข้าวัดเฟยไหลมาหน่อยก็มี ผู้ชายคนนึงเชื้อเชิญเข้าไปดูห้อง พวกผมก็ตามเขาไป เค้าบอกราคา 100 หยวน พอได้ยินราคาแล้วแบบถูกมาก แต่ขอดูห้องก่อน
ห้องอลังมาก เตียงนุ่ม มีของอำนวยความสะดวกครบ ทั้งกระติกน้ำร้อน ที่นั่ง และที่ขาดไม่ได้คือผ้าห่มไฟฟ้า ในห้องน้ำเป็นชักโครกตะวันตก มีอ่างล้างหน้า และที่สำคัญมีอ่างอาบน้ำให้ด้วย เมื่อเช็คห้องเสร็จตรวจดูของต่างๆว่าใช้ได้ก็ให้ใจไปครึ่งนึงละ แต่ที่ตัดสินใจเลือกห้องที่นี่ก็เพราะ เปิดม่านไปแล้วเยอะเทือกเขาหิมะเหมยลี่เลย ชอบมาก จึงตัดสินใจจะจองที่นี่
พอถึงเวลาจ่ายเงิน อยู่ดีๆเจ้าของห้องบอกมาว่า 150 หยวน ผมนี่งงเลย ทั้งที่ตกลงมาแค่ 100 หยวน เลยบอกเขาว่างั้นขอย้ายเพราะตอนตกลงครั้งแรกบอก 100 หยวน เค้าเลยให้จ่ายเพียง 100 หยวน คือจริงๆที่เขาให้จ่ายเพิ่มนี่ผมไม่รู้นะว่าเพราะอะไร อาจจะเป็นมัดจำกุญแจก็ได้เพราะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง
วันรุ่งขึ้นมีแผนจะไปธารน้ำแข็งหมิงหย่งเลยสอบถาม เจ้าของโรงแรมพร้อมบอกว่า หมิงหย่งกับเอารูปให้ดู เขาเลยติดต่อไปถามให้แล้วบอกราคามาที่ 200 หยวน แล้วตกลงเวลากัน ตอนเช้ารถจะมารับที่หน้าโรงแรม ธุระวันนี้เสร็จแล้วก็ออกไปเดินชมวิวข้างนอก
ตึกอาคารต่างๆของที่นี่แย่งกันสูงจริงๆ ตึกด้านหน้าที่ติดถนนดีหน่อยที่ไม่ต้องแข่งความสูงกับใคร สร้างแค่ไหนก็มองเห็นเทือกเขาหิมะเหมยลี่ ส่วนตึกอื่นๆที่อยู่ด้านหลังก็ต้องสร้างให้สูงมากเพื่อที่ลูกค้าจะมองเห็นแนวเทือกเขา
เดินมาจนสุดรั้ววัดเฟยไหลซื่อก็เห็นจุดถ่ายรูปสวยๆแต่อันตรายไปหน่อย คือต้องข้ามจากรั้วกั้นทางเข้าไปด้านใน ตรงนั้นจะมีกองหินเรียงอยู่หลายกองเลย ไม่รู้ใครกองไว้นะ
ไปไหนกันดีครับ
อากาศตอนเย็นที่นี่ดีจัง พระอาทิตย์ก็ใกล้ตกแล้ว มองไปตรงแนวเทือกเขาหิมะเหมยลี่ หลายยอดเขาก็ออกมาทักทายเรา ยกเว้นแต่ยอดคาวาเกโปที่หลบซ่อนความสวยงามของตัวเอง จากสายตาผมอยู่หลังม่านเมฆ ว่ากันว่าหนึ่งปีจะมีเพียงไม่กี่วันที่จะเห็นยอดเขานี้ ยอดเขาที่สูงที่สุดในมณฑลยูนนาน ยอดเขาแห่งพระเจ้า ที่ชาวทิเบตเชื่อกันว่าสักครั้งในชีวิตต้องมาเคารพเทพเจ้าที่สถิตบนเทือกเขานี้ แม้วันนี้ผมอาจจะยังให้เห็นแต่ยังมีเวลาลุ้นอีกหลายวันว่าจะได้เห็นหรือเปล่า บางคนมาครั้งแรกก็เห็นเลย แต่หลายคนไม่ใช่แบบนั้น หลายคนมากี่ครั้งก็ยังไม่เคยได้เห็นยอดเขานี้
ชมวิวทิวทัศน์ดูบรรยากาศบ้านเมืองเสร็จท้องร้องอีกละ ที่นี่กลางคืนเงียบจริงๆ เลยกลับโรงแรม ที่โรงแรมมีสุกี้อยู่ เพราะกลัวเขาจะเอาจามรีมาให้เลยบอกเขาว่า only pork เขาก็โอเค จัดให้ พออาหารมาครบเท่านั้นแหละ
Only pork จริงๆ
สุกี้ราคา 88 หยวน มีแต่หมูกับน้ำซุป ผักอะไรไม่มีเลย สงสัยว่าเขาจะเข้าใจว่าเอาเฉพาะหมู ผักไม่กิน 555
อากาศที่เฟยไหลซื่อนี่คือแบบสุดๆไปเลย หนาวมากอุณหภูมิติดลบ เป็นครั้งแรกที่ใช้ชีวิตในอุณหภูมิติดลบแบบนี้ ขนาดอยู่ในห้องยังหนาวจนต้องต้มน้ำดื่มเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น แต่ตอนที่อุ่นที่สุดคงเป็นที่ตอนที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มไฟฟ้า อิอิ
สำหรับวันนี้ก็รู้สึกดีใจมากที่ได้มาถึงที่นี่ แม้จะมาไม่ทันเห็นยอดเขาคาวาเกโป แต่วิวข้างทางที่ได้เห็นก็คุ้มมาก คือสวยสุดๆ สวยเกินบรรยาย เหมือนอยู่ใกล้ชิดติดขอบฟ้ายังไงยังงั้น
ไหนๆก็ได้ห้องริมหน้าต่าง ก่อนนอนก็ขอเปิดชมวิวทิวทัศน์ภูเขาหิมะสักหน่อยละกัน
โอ้โห...
น้ำตาแทบไหล ดีใจมาก จนรีบวิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้า
ยอดเขาคาวาเกโปออกมาให้เรายลแล้ว
บรรยากาศรอบๆก็เป็นใจ หากใครได้ไปหวังว่าจะโชคดีได้เห็นเหมือนกันนะครับ
ฝันดีเลยคืนนั้น
หลับไปพร้อมกับหิมะสายัณห์
และตื่นมาพร้อมกับหิมะวันอรุโณทัย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น