J-trip ตอนที่ 5 : ศาลเจ้าเมจิ เมืองใหม่โอไดบะ
กลับมาถึงกรุงโตเกียว เลยต้องแวะไปชมศาลเจ้าชื่อดัง ว่ากันว่าที่นี่เป็นสวนธรรมชาติในเมืองหลวงที่ใหญ่มากแห่งนึงเลยนะ จากชินจูกุ ผมนั่ง JR สายยามาโนเตะ มาลงที่สถานีฮาราจุกุ ใช้เวลาไม่นานครับ เมื่อออกจากสถานีเดินเลี้ยวขวาออกไปตามถนน ประมาณไม่ถึง 10 นาทีก็จะเจอศาลเจ้าเมจิแล้ว
ทางเข้าจะเป็นประตูไม้ใหญ่ มีต้นไม้ปกคลุมโดยรอบ เดินเข้าไปสักพักจะเจอถังสาเกที่นำมาถวายเทพเจ้า กับกระจาดที่ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเอาไว้ทำไม
คำอธิบาย
ถ้าเดินตามทางเข้าไปเรื่อยๆ ก็จะมีสวนที่ถ้าอยากดูต้องเสียค่าเข้าชม ตอนที่ไปไม่รู้ว่ากำลังจะมีเทศกาลอะไรเห็นเค้าเอาดอกเบญจมาศใหญ่ๆมาโชว์
เมื่อใกล้ถึงจะมีทางเข้ากับกระบวยตักน้ำไว้สำหรับชำระล้าง มือ หน้า และบ้วนปาก ผมไปก็เก้ๆกัง เห็นเค้าทำอะไรก็ทำตาม...ศึกษาจากวิถีชีวิตคนอื่นเพื่อปรับใช้กับตัวเอง
ด้านในจะเป็นลานกว้าง มีต้นไม้ใหญ่ มีที่แขวนคำอธิษฐาน และมีศาลเจ้าอยู่ตรงหน้า บริเวณภายในศาลเจ้าห้ามถ่ายรูป
ที่จำได้ข้างในเหมือนทางศาลเจ้ากำลังทำพิธีอะไรซักอย่างนึง สำหรับการทำบุญทำได้โดยนำเหรียญโยนลงไปตรงช่อง โค้ง ปรบมือ อธิษฐาน โค้ง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะประมาณนี้
ถ้าอยากเขียนแผ่นไม้ก็สามารถซื้อมาเขียนเสร็จแล้วนำมาแขวนไว้ได้ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าต่อไปเค้าจะเอาไปทำอะไรต่อ
หลังจากชมศาลเจ้าเมจิแล้ว ย่านท่องเที่ยวยอดฮิตที่ไม่ไกลจากศาลเจ้าก็คือ ฮาราจุกุ เพียงเดินกลับมาที่สถานีรถไฟ JR
เมื่อมาถึงแล้วถนนตรงข้ามนี้แหละครับ เข้าไปเดินดูแล้วส่วนใหญ่ก็เป้นร้านขายพวกเสื้อผ้าแฟชั่นต่างๆ มีร้านอาหารบ้าง และที่อดไม่ได้เมื่อเจอก็คือ เครปครับ ที่ซื้อนี่ตกชิ้นละ 550 เยน/170 บาท แอบแพงแต่มาถึงแล้วก็ลองหน่อย
หน้าตาของเครปก็ประมาณนี้
เดินจนจบครบเสร็จผมก็เดินทางต่อเพื่อไปยัง Odaiba เมืองจากการถมทะเล พื้นที่ส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นห้างสรรพสินค้า และมีจุดชมวิววถ่ายรูปสวยๆหลายที่เลย
การเดินทางไปโอไดบะให้ต่อรถไฟไปลงที่สถานี Shimbashi จากนั้นจะมีรถไปยังเมือง โอไดบะ เสียดายที่ไม่ได้นั่งหัวขบวน เพราะที่หัวขบวนจะชมวิวรอบๆเมืองโอไดบะได้
ยามเย็น
ยามค่ำ
มองออกไปรอบๆมีแต่ห้างผมเลยไม่ได้แวะเข้าไปชมอะไรเพราะมาเพื่อชมวิวเฉยๆ จุดเด่นที่สุดเมื่อมาที่นี่คงจะเป็นยามค่ำคืนที่มีเทพีเสรีภาพจำลองด้านหน้าและด้านหลังเป็นสะพานสายรุ้ง และสถานที่อีกแห่งคือ Diver City ที่ต้องมาที่นี่เพราะด้านหน้ามีกันดั้มยักษ์ไว้ให้เราถ่ายรูปด้วย เสียดายตอนไปมืดเร็ว ภาพเลยไม่ค่อยสวย ผมเดินไปสองที่ก็ไม่มีแรงเดินไปไหนต่อเพราะเมื่อย แต่ยังมีที่ท่องเที่ยวในเกาะนี้อีกเยอะ ไว้ถ้ามีเวลาและได้มาอีกคงจะเที่ยวให้ครบ
5-6 โมงก็มืดแล้ว เมื่อถึง Shimbashi ผมก็เดินทางไป Shinjuku เพื่อไปเอากระเป๋าที่ Locker และก่อนจะไปเอากระเป๋าก็ได้แวะไปทานขาปูยักษ์เหมือนที่เคยเล่าไว้ แล้วเดินทางต่อไปยัง ย่าน Asakusa เพื่อที่ว่าพรุ่งนี้เช้าจะได้เดินทางไปดูใบไม้แดงที่เมืองมรดกโลก...Nikko
อ่านเรื่องราวอื่นๆได้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น