Maya Himalayan ตอนที่ 3 เฟวา โภครา อันนาปูรณา มัจฉาปูชเร

สวรรค์บนดิน ถิ่นนักรบกุรข่า "โภครา"

28 เม.ย. 58 
     วันนี้ก็ยังไม่ละความพยายามที่จะไปสวนลุมพินี หลังจากรวบรวมข้อมูลจาก lonely planet ที่ซื้อเป็นไฟล์pdf มา ก็ได้ความว่าสามารถนั่งเครื่องจาก kathmandu ไปลง Bhirahawa ได้ เลยเก็บของต่อรถไปสนามบิน

     สนามบินภายในประเทศเนปาลเป็นสนามบินเล็กๆ อยู่ติดสนามบินนานาชาติ ช่องขายตั๋วเป็นช่องแคบๆ ผมเดินไปถามช่องแรกของ Yeti airline พนักงานบอกเต็ม เดินไปของ Buddha air ก็เต็มอีก จะไปไหนต่อละทีนี้ เลยกัดฟันซื้อตั๋วไปโภคราของYeti airline ในราคา 117US รอบ 09.40 น. ฟรีน้ำหนักกระเป๋า 20 กิโล

     หลังจากซื้อตั๋วเสร็จก็เข้าไปในสนามบิน ภายในสนามบินเข้าได้เฉพาะผู้โดยสารที่มีตั๋วเท่านั้น ข้างในคนเยอะมาก ตอนนั้นหกโมงกว่าๆ ข้าวก็ยังไม่ได้กินก็เลยมองหาอะไรรองท้อง เพราะกะว่าที่โภคราคงมีอะไรให้กินเยอะแยะ จาก KTM ไป PKR ใช้เวลาไม่น่าจะเกิน 40นาที จากนั้นก็ได้ขนมปังกับน้ำผลไม้ แม้ว่าจะราคาสูงแต่ก็บรรเทาความหิวของผมได้

     เคาท์เตอร์เชคอินที่นี่เป็นช่องๆ เปิดก่อนเวลาประมาณชั่วโมงนึง ผมก็ยืนนรอเวลาไป เพราะที่นั่งมีน้อยและผู้โดยสารของแต่ละสายการบินมีเยอะ พอเชคอินได้ ก็เข้าไปด้านใน สำหรับประเทศเนปาลด่านตรวจความปลอดภัยจะแยกเป็นของผู้ชายกับผู้หญิง ผู้ชายรอคิวยาวมาก

     ด้านในก็ลองเปิดหาสัญญาณ wifi เจอของ Yeti airline เลยเข้าไปขอ password จากพนักงานมา ถึงแม้จะต่อติดยากมาก แต่ยังพอจะใช้การได้ เลยได้อัพภาพในประเทศเนปาลครั้งแรกที่สนามบินนี่แหละ หาไวไฟได้แล้วก็สำรวจดูปลั๊กไฟกันต่อ เพราะสองวันที่ผ่านมาต้องประหยัดแบตเพราะไฟไม่มีกลัวอดถ่ายภาพสวยๆ แต่พอไปถึงแต่ละจุดก็อด คนอื่นเค้าจองหมด ใกล้ถึงเวลาก็จัดการทำธุระส่วนตัว ห้องสุขานั้นที่เจอมีทั้งแบบนั่งยองกับแบบตะวันตก ตามแต่สะดวกที่จะใช้เลยครับ

     นอกอาคารผู้โดยสารมองไป เห็นเครื่องบินหลายลำขนของมาเต็มเลย ส่วนนึงก็น่าจะเป็นของจากที่นานาประเทศบริจาคแก่เนปาล และแล้วเครื่องแต่ละลำของสายการบินYeti ก็เริ่มดีเลย์ ลำก่อนหน้าสภาวะภูมิอากาศไม่ดี ลำต่อมาไม่มีหลุมจอด และลำของผมไม่มีหลุมจอดจาก9.40 - 10.30 - 11.30 - 12.XX รอแล้วรออีกรอจนเหนื่อย แต่ยังดีที่มีเนตฟรีใช้อัพภาพ คุยตอบโต้กับคนที่ไทย พอถึงเวลาพนักงานก็เรียกไปตรวจตั๋ว ภาวนาอยู่ในใจว่าคงจะไม่ดีเลย์อีกนะเรียกขนาดนี้

     ตรวจตั๋วเสร็จก็ขึ้นรถบัส ผู้โดยสารครบรถก็พาไปยังเครื่องบินที่จอดรออยู่ ข้างบนเป็นแถวแบบ ผมนั่งหลังสุดริมหน้าต่างเลย ใกล้ห้องน้ำด้วย มองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนจะเติมน้ำมันยังไม่เสร็จเลยทำไมให้ขึ้นแล้วนะพอขึ้นไปกันครบ ลูกเรือจะแจกสำลีอุดหูกับลูกอม พอยื่นมาให้ทั้งตะกร้าก็คว้าเต็มมือ แต่เกรงใจก็คืนไปบ้าง สองสามลูก 555 แจกของเสร็จก็นึกว่าเครื่องจะออก สักพักลูกเรือก็เอาของว่างมาแจก แล้วก็แจกน้ำ รออีกพักใหญ่ ฝนตกเครื่องก็ยังไม่ได้ออก ลูกเรือแจกขนมอีกรอบในเครื่องคนก็เริ่มวุ่นวายแล้วก็เปลี่ยนลูกเรือจากสาวผมสั้นตากลมโตเป็นสาวผมรวบตาเฉี่ยวเปลี่ยนลูกเรือเสร็จ ก็ไม่รู้ทำไมสายการบินเชิญผู้โดยสารทุกคนลงเครื่องออกไปที่อาคารผู้โดยสาร อีกครั้งเพื่อรอสภาวะภูมิอากาศที่ดีกว่านี้ค่อยกลับมาขึ้นเครื่องใหม่ แล้วก็เรียกขึ้นเครื่องอีกรอบตอนประมาณ 14.20 น. เลทเกือบ 5 ชั่วโมงสุดท้ายก็ได้ออกเดินทาง

     เครื่องขึ้นไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ มองออกไปนอกหน้าต่างยังเห็นชาวบ้านกางเต๊นท์นอนกันตามพื้นที่เปิดโล่ง เมฆเยอะฟ้าปิดแบบนี้แอบเสียใจอดเห็นสครมาถา ตอนนั้นรู้สึกงัวเงียเพลียเซง ยังไม่รู้เลยว่าพอถึงโภคราจะดำเนินชีวิตต่อไปยังไงดี เหตุการณ์ที่นั่นจะเลวร้ายไหมนะ
     แต่ใกล้ถึงเมืองโภคราเท่านั้นแหละ ทำผมแทบหยุดหายใจเมื่อมองออกไปทางหน้าต่างเครื่องบิน กาฐมาณฑุฝนตก แต่ที่นี่แม้ว่าจะมีเมฆมากแต่อากาศกำลังดี แนวเทือกเขาหิมาลัย แนวเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุมสวยมาก มากจนบรรยายไม่ถูก อยู่บนเครื่องเห็นแปบเดียวเครื่องก็แตะพื้น มัน Wowww มาก พอถึงสนามบินเมืองโภครา ก็เห็นของช่วยเหลือจากนานาประเทศอยู่เป็นกองๆ รอบสนามบินมีคนมามุงเยอะมาก ไม่รู้ว่ามาดูอะไร

     ลงเครื่องรับกระเป๋าเสร็จก็ได้เวลาออกไปหาที่นอนที่เมืองโภครากัน ตอนนั้นยังไม่มีโรงแรมก็เลยให้ พาไปโรงแรมแถบ Lake side พอไปถึงผมนี่ต้องรีบถามก่อนเลยว่าเท่าไหร่ เพราะดูแล้วน่าจะแพงใช่ย่อย แต่พนักงานพาไปเดินดูนั่นนี่ ราคาที่ให้มาก็สูง ผมจึงปฏิเสธและขอตัวไปโรงแรมอื่น แต่พนักงานรั้งไว้พร้อมถามว่าต้องการเท่าไหร่ ผมบอก 2000 รูปี พนักงานพาไปห้องชั้นบนสุดมีน้ำ มีไฟ Wifi ใช้ได้ เตียงสบาย แต่ไม่มีแอร์ ผมไม่ซีเรียสเพราะมีพัดลมก็เพียงพอ ที่ผมติดใจคือพอพนักงานเปิดม่านห้องเท่านั้นแหละ โอ้โห แนวเทือกเขาหิมาลัยนี่หว่า สวยมาก ตกลงทันที


มองมาจากโรงแรม

     จัดการเรื่องโรงแรมเสร็จ ก็ได้จัดการตัวเองต่อซักแห้งมาสองวัน ได้อาบน้ำสบายตัวชะมัด พักผ่อนแปบๆก็ได้เวลาไปเที่ยว มาโภคราสถานที่มีชื่อเสียงคือทะเลสาบเฟวา เพราะชอบเล่นน้ำหรือกิจกรรมอะไรที่เกี่ยวกับน้ำ ได้ล่องเรือในทะเลสาบเฟวานี่ ชอบสุดๆ แดดร้อนนะ แต่ลมเย็นมาก ตกลงราคาสามชั่วโมงในการล่องเรือและชมสถูปด้านบน+ชูชีพ 930 ออกมาตอน 16.10 น. ให้กลับมาถึงฝั่งตอน 19.10 น.
 
     เด็กพายเรือก็พายเรือไปอีกฝั่งประมาณยี่สิบนาที ตอนนั่งเรือก็ถ่ายนั่นนี่ แล้วก็ให้เด็กถ่ายรูปกับทะเลสาบให้ผมด้วย พอถึงฝั่งในใจก็คิดนะว่าทำไมให้เวลาเยอะจัง แต่พอเริ่มเดินไปตามเขาเพื่อขึ้นไปชมสถูปด้านบนเท่านั้นแหละ เชื่อไหมว่าผมคิดว่าถึงสถูปแล้วเลยเดินขึ้นไปชมวิวด้านบนอีกนิดเดียว แล้วอยู่ตรงนั้นถ่ายรูปแนวเทือกเขาหิมาลัยนานมาก จนสนิทกับเจ้าของโรงแรม open air เค้าบอกว่าถ้ามาพักที่นี่อาจได้เห็นแนวเทือกเขาพร้อมกันทั้งแนว วิวส่วนใหญ่ผมก็ถ่ายจากโรงแรมนี่แหละ แลกอีเมลล์ไว้แต่ดันลืมกระดาษจดอีเมลล์ไว้ร้านอาหาร

 
วิวเมืองโภครากับทะเลสาบเฟวา


ยอดเขามัจฉาปูชเร

แนวเทือกเขาอันณาปูรณา

      ชมวิวถึงห้าโมงครึ่งเห็นพนักงานที่โรงแรมเดินมาเลยขอให้เค้าถ่ายรูปกับวิวให้ แล้วเดินลงมาจนถึงสถูป ไม่รู้อะไรดลใจ ให้ผมหันกลับไปมองด้านบน เพิ่งทำให้รู้ว่าสถูปอยู่ด้านบนนั้น อันที่อยู่นี้ไม่ใช่ แล้วทำไงล่ะ ก็ใส่เกียร์หน่ะสิ ยิ่งสูง ยิ่งชัน หายใจก็ไม่ค่อยทัน แต่ก็ยังมีอารมณ์สวดมนต์ไปด้วยเดินไปด้วย พอไปถึงทางเข้าสถูปปิดแล้ว แทบหมดแรง เดินลงมาบริเวณที่พอมองเห็น ถ้ามีโอกาสก็ขอให้ได้ขึ้นไปไหว้ใกล้ กราบสามครั้งแล้วลงไปด้านล่าง ฟ้ามืด อากาศเย็น จากพื้นน้ำสีเขียวกลายเป็นสีครามหม่นๆ

29 เม.ย. 58
     นัดกับโรงแรมไว้ว่าจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ Sarangkot ตอน 5.30 น. ตื่นแต่ตีสี่ เพราะฝนตกหนักมาก หนาว แล้วก็อาบน้ำเตรียมตัว ใกล้ถึงเวลาก็จะออกจากห้องแต่ประตูดันเปิดไม่ได้ คือเปิดยังไงก็ไม่ออก จนต้องโทรให้พนักงานรักษาความปลอดภัยมาเปิดให้ พนักงานถามว่าจะไปอยู่หรอฝนตกหนักมาก ด้วยความดื้อเนอะ ฟ้าฝนแค่นี้ไม่หวั่นอยู่แล้ว เห็นก็คือเห็น ไม่เห็นก็คือไม่เห็น พนักงานรักษาความปลอดภัยนัดรถแล้วก็มาเปิดประตูห้องให้ ก็ออกเดินทางไป Sarangkot เคยอ่านรีวิวว่าสามารถเดินลงจาก Sarangkot มา lake side ได้ แต่ผมว่าไกลมาก ชันด้วย หรือมีทางอื่น???  ฟ้าเป็นใจให้ผมอยู่นิดนึง ออกมาแปบเดียวฝนก็หยุดตก แต่ก็ยังมีเมฆมากอยู่ พอถึงจุดชมวิว บรรยากาศด้านล่างสวยมาก แม้วิวภูเขาจะมีเมฆเยอะ แต่เชื่อไหมผมไม่เคยเห็นวิวที่ไหนสวยเท่านี้มาก่อน

 สวรรค์เปิด

อาทิตย์ส่องแดดส่องแสง
     สำหรับแนวเทือกเขาหิมาลัย วันนั้นเห็นเฉพาะมัจฉาปูชเร ยอดอื่นกับแนวเทือกเขาหิมาลัย เล่นซ่อนแอบกับผมอยู่ รอจนได้เวลาเลยต่อรอง taxi ให้พาเที่ยวรอบเมือง 1วัน พอได้ราคาที่พอใจก็ออกเดินทาง ไปที่ต่าง 

วัดเทพธิดาบินดาบาซินี:วัดสำคัญเมืองโภครา 
วิหารเทพธิดาบินดาบาซินี


วิหารพระศิวะ

มีหนูอยู่ข้างๆ แน่นอน วิหารพระพิฆเนศวร

จากวัดมองไปเห็นยอดเขามัจฉาปูชเรพอดีเลย

 
ข้างนอกมีของขายเพื่อบูชาเทพเจ้าด้วย 

ชุมชนชาวทิเบต:ชุมชนที่ชาวทิเบตอาศัยกันอยู่ อารามวัดทิเบตเพ้นได้สวยมาก มาเที่ยวแล้วอย่าลืมอุดหนุนงานฝีมือที่ชาวทิเบตทำกันด้วยนะครับ

ทางเข้าไปยังวัด ข้างๆเป็นร้านขายของชาวทิเบต

เห็นหลังคาวัดแล้ว
     แล้วก็เดินมาถึงวัด อาคารนี้น่าจะเป็นที่ทำพิธีของพระ อาคารโดยรอบเป็นที่นอนของพระ มีสอนหนังสือด้วย สำหรับอาคารในรูปผมก็รออยู่นะว่าจะเปิดเมื่อไหร่ จนเจ้าของร้านขายของบอกว่าถ้าอยากเข้าไปให้เปิดประตูเข้าไปดูได้เลย ไขกลอนเสร็จก็เข้าไปนั่งสวดมนต์ แล้วก็สำรวจดูโดยรอบ ข้างในอาคารเพ้นลายตามแบบทิเบต สีสันสวย แปลกตาดี ห้ามถ่ายรูป


พิพิธภัณฑ์กุรข่า: มีดกุรข่าถือเป็นสิ่งของเลื่องชื่อของเนปาลเลย ในอดีตเคยใช้มีดนี้เพื่อต่อสู้สงครามมานักต่อนัก เมื่อชื่อว่าพิพิธภัณฑ์กุรข่าที่นี่จึงรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามไว้ เสียค่าเข้าด้วย เสียค่ากล้องด้วยนะที่นี่
อนุเสาวรีย์ด้านข้าง
อาคารจัดแสดง
มีดกุรข่า / สิ่งของดำรงยังชีพ





แม่น้ำเซติ:แม่น้ำสายสีขาว อาจเห็นได้ตามทาง แต่ก็มีส่วนที่เราจะสามารถมาดูแม่น้ำแห่งนี้ใกล้ๆได้

ลองใช้กระบวยตักขึ้นมาดู ขาวจริงๆนะเออ

ตรอกนี้เห็นแม่น้ำเซติสีขาว มองลงไปแอบเสียว ชันมาก
น้ำตกเดวิด:น้ำตกที่ไหลตามตรอก ชื่อตั้งตามนายเดวิดที่เคยตกลงไปเสียชีวิตในแม่น้ำนี้
 
ทำไมถึงชื่อน้ำตกเดวิด
ทางเข้าน้ำตก /ของที่ระลึกจำพวกทองเหลืองเยอะมาก
เทือกเขาจำลอง / ประวัติน้ำตกคร่าวๆ

ถึงแล้วครับน้ำตกเดวิด สวยแปลกดี น้ำตกลงไปตามตรอกหินผา แต่ถ้าเป็นฤดูฝนน้ำเยอะคงจะสวยกว่านี้
บ่อน้ำนี้สำหรับเสี่ยงทาย โยนเหรียญลงไปถ้าหล่นไปที่ฐานของรูปปั้นจะโชคดี /มองไกลๆคล้ายรูปตา

ถ้ากัปเตชอ:ถ้ำพระศิวะ น้ำจากน้ำตกเดวิดไหลลงมาตามตรอกซอกถ้ำนี้ ภายในมีรูปเคารพพระศิวะ
ข้ามถนนจากน้ำตกเดวิดมาจะเจอทางเข้าถ้ำ

ทางลงไปยังถ้ำประดับด้วยรูปปั้นอันงดงาม
เดินลงไปข้างล่างตามช่อง อากาศเย็นแต่อับ อาจได้ยินเสียงชาวบ้านสวดมนต์ตอนเดินผ่าน

ในที่สุดก็มาถึงไฮไลต์ของถ้ำแล้ว ตรอกนี้ที่น้ำตกเดวิดไหลมา

โดยรอบมีไฟส่องสว่างอยู่

กลับขึ้นมาด้านบนจะเจอรูปเคารพพระพิฆเนศวร อาจได้ยินเสียงขับร้องตรงศาลาข้างๆ

เจดีย์สันติภาพ:เจดีย์ที่สร้างเพื่อสันติภาพของโลก
     เมื่อวานได้มาชมแล้ว แต่ไม่ถึงด้านบนเพราะปิดก่อน เพิ่งรู้เหมือนกันนะเนี่ยว่ามีอีกทาง เมื่อวานเสียใจวันนี้ดีใจมากที่ได้ขึ้นมาถึงเจดีย์แห่งนี้แล้วด้านบนมองเห็นโดยรอบเมืองโภคราเลย
อีกมุมของวิวเมืองโภครา

ทำบุญจุดตะเกียง
ด้านนึงขององค์เจดีย์

ประสูติ
ตรัสรู้

ปรินิพพาน

วันนี้มาถึงแล้ว โอม ศานติ


พิพิธภัณฑ์ภูเขา:รวบรวมประวัติต่างๆของหิมาลัย รายชื่อนักเดินเขาที่พิชิตยอดเขาต่างๆ และรวบรวมวิถีชีวิตชาวเขาเผ่าต่างๆมาให้ดูที่นี่ด้วย ตัวพิพิธภัณฑ์อยู่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวอื่นมาก
ขับรถไปตามทางจะเจอป้ายทางเข้า
เสียค่าเข้าชม แล้วก็เดินตามทางสวนร่มรื่นเข้าไป

 
ถึงทางเข้าพิพิธภัณฑ์แล้ว เข้าไปด้านในก็ต้องลงไปชมวิดีทัศน์เกี่ยวกับประเทศเนปาลก่อน
 
หลังจากชมวิดีทัศน์ ก็ไปชมห้องจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ของชนเผ่าต่างๆ

ฟอสซิล
ภาพรวมของโถงแต่ละส่วน
ก่อนกลับออกมาก็ไหว้พระนิดนึง

Old bazaar:ย่านชุมชนชาวเนวารี บ้านแบบเก่าตามแบบฉบับชาวเนวารี ตึกสีอิฐ หน้าต่างลายฉลุ คลาสสิคมาก ถ่ายภาพออกมาแล้วอาร์ต รอบๆเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวปกติดี เพื่อนๆยังสามารถมาเที่ยวแวะถ่ายรูปกันได้

     ยามค่ำคืนตามถนนเลียบไปตามทะเลสาบมีของขายเยอะมาก มีร้านขายผ้าพาสมีนาชื่อร้าน LOVE LOVE ที่ชาวไทยนิยมมาซื้อกันด้วย ร้านนี้ขายราคาถูกกว่าที่KTM ป้ายหน้าร้านมีลายมือคนไทยเขียนรับประกันไว้ด้วยครับ

 
     อาหารมีหลายราคาหลายร้าน บางร้านบวก10% ร้านขายทองเหลืองให้เดินดูก่อนที่จะซื้อ ผมดูของชิ้นเดียวกันร้านนึงขาย 2000+ อีกร้านขาย1000+ แถมร้าน1000+ ต่อราคาได้ด้วย ตั๋วต่างๆ ถามราคาเอเจนซี่แพงกว่าซื้อที่ bus station เพราะบวกคอมมิชชั่น
     วันนี้มีเรื่องฮาตรงที่ไปร้านอาหาร ร้านอาหารเอารหัส wifi มาให้ เปิดดูรหัสเขียนประมาณ XXX[space]xxx เราก็กดตามหลายรอบแต่เข้าไม่ได้ เลยให้พนักงานกดให้ พอพนักงานกดเท่านั้นแหละ Getเลยว่า [space] คือให้กด space bar ไม่ใช่ให้พิมพ์ 55 ขำตัวเอง เที่ยวหมดวันก็ได้เวลาพักผ่อน...

อ่านเรื่องราวอื่นๆได้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ສະບາຍດີເມືອງລາວ 1 (ໄຊຍະບູລີ) ... สบายดีเมืองลาว 1 (เมืองไซยะบุรี)

9 พระพุทธรูปและพุทธสถานศักดิ์สิทธิ์รอบเจดีย์ชเวดากอง : 9 wonders of Shwedagon Pagoda

เลาะเลี้ยวเที่ยวเมืองตาก...เก็บสตรอว์เบอร์รี ดูเมล็ดกาแฟอาราบีก้า ที่ดอยมูเซอ